วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุตตริมนุสสธรรมของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอน ให้กราบไหว้คนแก่คนเฒ่า

ให้กราบไหว้คนแก่คนเฒ่า
พระครูธรรมถาวร (ช่วง) ลูกศิษย์สมเด็จที่เคยรับใช้ใกล้ชิดมาแต่เป็นเด็กวัดเล่าว่า สมเด็จท่านเคยสอนว่า ถ้าอยากมีอายุยืน ให้กราบไหว้คนแก่คนเฒ่าเสมอๆ พระครูธรรมถาวร อยากมีอายุยืนบ้าง จึงทำตามเรื่อยมา พระครูธรรมถาวรผู้นี้ จึงมีอายุยืนถึง ๘๘ ปี เรื่องนี้สมเด็จท่านสอนตามคำตรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ว่า
“อภิวาทนสีลิสะนิจจัง วุฑฒา ปะจายิโน จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง”
(ผู้กราบไหว้ท่านผู้ใหญ่ด้วยศีลเป็นนิจแล้ว ย่อมเจริญด้วยสิ่ง ๔ ประการคือ มีอายุยืน มีวรรณะผ่องใส มีความสุข และมีพละกำลังดี)

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุตตริมนุสสธรรมของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอน รับจ้างเทศน์เงิน ๑๐๐ บาท

รับจ้างเทศน์เงิน ๑๐๐ บาท
คราวหนึ่งหญิงหม้ายคนหนึ่งบ้านช่างหล่อ ฝั่งธนบุรี บ้านใกล้วัดระฆัง นิมนต์สมเด็จเทศน์ที่บ้าน ติดกัณฑ์เทศน์มากที่สุดถึง ๑๐๐ บาท  สมัยโน้นเงิน ๑ ชั่ง ๕ ตำลึง (๑๐๐ บาท) มากเหลือเกิน จึงบอกสมเด็จว่า ขอให้พระเดชพระคุณเทศน์ยาวๆ เพราะๆ นะเจ้าคะ ดิฉันติดกัณฑ์เทศน์ ๑๐๐ บาท  สมเด็จไม่ว่าอะไร พอขึ้นธรรมาสน์ก็ว่านะโม ๓ จบ แล้วเทศน์ว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง คือคุณแก้วสามประการ ย่อมคุ้มโพยภัยอันตรายและให้เจริญด้วยลาภผลทุกประการที่ปุถุชนปรารถนา...เอวังก็มี ด้วยประการฉะนี้...” แล้วลงธรรมาสน์  หญิงหม้ายร่ำรวยคนนั้น คิดในใจว่า สมเด็จแกล้งเทศน์ แล้วบ่นกับคนทั่วไป  วันรุ่งขึ้นสมเด็จก็มาใหม่ บอกว่า “วันวานนี้ฉันรับจ้างเทศน์นะจ๊ะ แต่วันนี้ฉันมาเทศน์เป็นธรรมทาน...” คราวนี้ท่านเทศน์ยืดยาวมาก เป็นที่พอใจของหญิงหม้ายสามีเศรษฐีนีคนนั้น
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุตคริมนุสสธรรมของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอน ลูกชาวบ้านเป็นสมเด็จโต

ลูกชาวบ้านเป็นสมเด็จโต
ในคราวหนึ่งท่านเข้าไปเทศน์ในวังตามเคย ท่านเทศน์เรื่องอะไรมิแจ้ง แต่ออกนามพระอานนท์ว่า สมเด็จอานนท์ สมเด็จอานนท์ ย้ำอยู่อย่างนั้น หลายคำ คงจะเป็นเมื่อท่านเป็นสมเด็จใหม่ๆ  พระจอมเกล้าฯ จึงให้เผดียงถามว่า พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอัครสาวก ทำไมไม่เรียกสมเด็จ มาเรียกพระอานนท์ว่าสมเด็จด้วยเหตุผลอันใด
สมเด็จท่านทูลว่า “ขรัวโตลูกชายชาวบ้านยังพระราชทานสุพรรณบัฏให้เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์  พระอานนท์พุทธอนุชา ขรัวโตจึงถวายนามว่า สมเด็จอานนท์  พระอานนท์จะมาต่ำศักดิ์กว่าขรัวโตได้อย่างไรเล่า เป็นนามยกย่องพระอรหันต์ พระอรหันต์ควรเป็นสมเด็จ เพราะสมเด็จแปลว่าผู้ “สำเร็จ”

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุตคริมนุสสธรรมของ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ตอน เทศน์ในงานฉลองวัดใหม่ยายแฟง

เทศน์ในงานฉลองวัดใหม่ยายแฟง
ในสมัยนั้นมีหญิงคนหนึ่งชื่อยายแฟง เป็นเจ้าของซ่องนางบำเรอ หรือนางรับจ้างบำเรอชาย ซึ่งเรียกกันว่านางโสเภณี หรือหญิงงามเมือง  ซึ่งมีมาแต่สมัยพระพุทธเจ้า แม่ของท่านอาชีวกโกมารภัจจ์ก็เป็นนางงามเมืองประจำกรุงของพระเจ้าพิมพิสาร น้องสาวของอาชีวกโกมรภัจจ์ก็เป็นนางงามเมือง รับจ้างนอนกับบุรุษคืนละ ๑,๐๐๐ กหาปณะ
เมื่อนางแฟงเป็นเจ้าสำนักหญิงงามเมืองในกรุงรัตนโกสินทร์จึงร่ำรวยเงินมาก ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร จึงสร้างวัดเอาบุญ เมื่อสร้างวัดแล้วจึงมีงานเฉลิมฉลองวัด นิมนต์สมเด็จพระชื่อดังไปเทศน์เอาชื่อ สมเด็จก็เทศนาว่า
“แม่แฟงทำบุญสร้างวัดคราวนี้มีบุญมากมายนัก จะได้เกิดเป็นหัวหน้านางฟ้าในสวรรค์”
เมื่อเทศน์จบแล้ว ยายแฟงดีใจมาก ถวายเงินติดกัณฑ์เทศน์เพิ่มเป็นเงิน ๑ ชั่ง แล้วถามสมเด็จว่า “นางฟ้าบริวารเหล่านั้น ทำบุญด้วยอะไรจึงมาเกิดเป็นนางฟ้า
บรรดาหญิงงามเมืองเหล่านั้นไม่ได้สร้างวัด ส่วนดิฉันสร้างวัดทำไมได้บุญเสมอกัน
หญิงงามเมืองไม่ได้เหน็ดเหนื่อย กลับได้เป็นนางฟ้าเหมือนคนสร้างวัด สมเด็จเอาที่ไหนมาว่า”
“โบราณท่านว่า ทำบุญด้วยน้ำเป็นเศรษฐี ทำบุญด้วยโยนีเป็นนางฟ้านะจ๊ะ ส่วนตัวแม่แฟงไม่ได้ลงแรงลงทุนหาเงิน เพียงแต่รวบรวมทรัพย์เขามาสร้างวัดเท่านั้นนะจ๊ะ บาทหนึ่งได้บุญเฟื้องหนึ่งก็มากแล้ว”
วัดใหม่แห่งนี้คนจึงเรียกชื่อว่า วัดใหม่ยายแฟง ภายหลังพระจอมเกล้าฯ จึงพระราชทานนามว่า “วัดคณิกาผล” ...

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุตตริมนุสสธรรมของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอน ทอดกฐินให้โจร

ทอดกฐินให้โจร
เล่ากันว่าคราวหนึ่ง เจ้าประคุณสมเด็จโต จัดกฐินไปทอดทางเมืองอ่างทองที่วัดเกศไชโย พักค้างคืนระหว่างทาง คืนนั้นขโมยได้มาลักเอาเครื่องกฐินของท่านไปหมดเรือ สมัยนั้นคงมีแต่ผ้าไตรจีวร  ท่านตื่นขึ้นมาแล้วล่องเรือกลับกรุงเทพฯ ใครถามท่านว่าทอดกฐินแล้วหรือ กลับมาเร็ว ท่านตอบว่า

“ฉันได้บริจาคแล้ว ฉันขอแบ่งส่วนบุญให้นะจ๊ะ”
คร้ันเดินทางมาถึงบ้านบางตะนาวศรี เมืองนนทบุรี ท่านซื้อหม้อของชาวมอญบรรทุกเรือมา ใครถามว่าซื้อหม้อไปทำไม  ท่านก็ตอบว่า "เอาไปแจกชาวบางกอก"  พบใครท่านก็แจกหม้อเรื่อยมา   เข้าคลองบางลำพู เข้าคลองสะพานหัน แจวไปถึงวัดระฆัง  ฝ่ายนักเลงเล่นหวยจับยี่กี คิดว่าท่านบอกใบ้ให้หวย จึงตีปริศนาแทงหวย ตัว ม.ม้าหันหุน  เขาว่าวันนั้น หวยออก ม.ม้าหันหุน 
(โปรดติดตามตอนต่อไป)