วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อุตตริมนุสสธรรม ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอน เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์


เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์
พ.ศ. ๒๔๐๗ คือเป็นพระเทพกวีได้ ๑๐ ปี รัชกาลที่ ๔ ก็ทรงตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ (จารึกนามในแผ่นทองคำ) เมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ขึ้น ๙ ค่ำ ดังสำเนาคำประกาศพระบรมราชโองการ ดังนี้
คำประกาศพระบรมราชโองการ
สิริศุภมัสดุ พระพุทธศาสนายุกาล เป็นอดีตภาคล่วงแล้ว ๒๔๐๗ พรรษาปัจจุบันกาลสุนทรสังวัจฉรปุษยมาส ศุกลปักษ์ นวมีดิถีครุวาร ปริเฉทกาลกำหนด พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ ฯลฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า พระเทพกวี พรรษายุกาล ประกอบด้วยรัตตัญญมหาเถรธรรมยั่งยืนมานาน และมีปฏิภาณปรีชา ตรีปิฎกเกลาโกศลและฉลาดในโวหาร นิพนธ์เทศนาปริยัติวิธีและทำกิจในสุตตะนั้นด้วยดีมิได้ย่อหย่อน อุตสาหะสั่งสอนพระภิกษุสามเณรโดยสมควร อนึ่ง ไม่เกียจคร้านในราชกิจบำรุงพระบรมศรัทธา ฉลองพระเดชพระคุณเวลานั้นๆ สมควรเป็นที่อรัญญิกมหาสมณคณาจารย์ พระราชาคณะผู้ใหญ่ มีอิสริยยศยิ่งกว่าสมณนิกร ผ่านอรัญญวาสีเป็นอธิบดีครุฐานิยพิเศษควรสักการระบูชาแห่งนานาบรรพสัช บันดาลนับถือพระบรมพุทธศาสนาได้  จึงมีพระราชโองการมานพระบัณทูรสุรสิงหนาท ดำรัสสั่งให้สถาปนาพระเทพกวีศรีวิสุทธิณายก ตรีปิฎกปรีชามหาคณิศรบวรสังฆารามคามวาสี เลื่อนที่ขึ้นเป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชาวิสุทธิศีลจรรยาสมบัติ นิพัทธสุตคุณ สิริสุนทรพรพรหมจาริก อรัญญิกคณิศรสมณนิกรมหาปริณายก ตรีปิฎกโกศล วิมลศิลขันธ์ สถิต ณ วัดระฆังโฆสิตารามมหาวิหาร พระอารามหลวง มีนิตยภัตราคา เดือนละ ๕ ตำลึง...”
เลื่อนเงินเดือนอีก ๑ ตำลึง
พ.ศ. ๒๔๑๐ โปรดพระราชทานเพิ่มนิตยภัตอีก ๑ ตำลึง รวมเป็น ๖ ตำลึง (๒๔ บาทเงิน)

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น