ไม่ไปร่วมสังคายนาพระไตรปิฎก
ในสมัยพระจอมเกล้าฯ
ขึ้นครองราชย์สมบัตินั้น ทรงพระราชดำริจะให้มีการทำสังคายนาพระไตรปิฎกใหม่
จึงให้อารธนาพระหลายองค์มาสังคายนาพระไตรปิฎก ในจำนวนนี้มีพระธรรมกิตติ (โต)
ด้วยองค์หนึ่ง แต่ท่านดื้อเสีย ไม่ยอมไปร่วมประชุมด้วย จึงโปรดให้สอบถาม
เหตุขัดขืนพระบรมราชโองการ จะทรงสอบถามเอง หรือให้สังฆการีไปสอบถามก็ไม่แน่ชัด
พระธรรมกิตติ (โต)
ตอบว่า
“พระไตรปิฎกนี้
พระอรหันต์แต่โบราณกาลที่ทำสังคายนาไว้แล้ว ขรัวโตเกิดมาภายหลัง
ยังไม่สำเร็จพระอรหันต์ จะให้ไปแก้ไขถ้อยคำในพระไตรปิฎก ขรัวโตกลัวตกนรก”
อันที่จริงพระไตรปิฎก พระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ท่านประชุมทำสังคายนาหลังจากนิพพานแล้ว ๓ เดือน ทำอีกคร้ังหนึ่งหลังจากนิพพานแล้ว ๑๐๐ ปี ล้วนแต่ทำสังคายนาหลังจากพระพุทธเจ้านิพพานแล้วทั้งสิ้น แต่พระอรหันต์ท่านมีจิตบริสุทธิ์ ทรงจำพระธรรมได้หมด แบ่งกันกล่าวเป็นหมวดๆ พระองค์อื่นน่ั่งฟัง ลงมติวา่ถูกต้องแล้ว จึงให้จดจารไว้ในใบลาน พระสูตรน้ันพระอานนท์ ท่องพระธรรมให้ที่ประชุมพระอรหันต์ฟัง พระวินัยและพระอภิธรรมนั้น พระอุบาลีท่องให้ฟัง ท่านทำเป็นหลักเป็นฐานมาก
คำในพระไตรปิฎกมีอยู่ ๔ คำ
๑.อกัมมยตา แปลว่า ไม่สู้่
๒.อคัมมยตา แปลว่า ไม่หนี
๓.อตัมมยตา แปลว่า ไม่อยู่ ไม่เกิด
๔.อมัมมยตา แปลว่า ไม่ตาย (คือไม่เกิดมาตายอีก)
อันที่จริงพระไตรปิฎก พระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ท่านประชุมทำสังคายนาหลังจากนิพพานแล้ว ๓ เดือน ทำอีกคร้ังหนึ่งหลังจากนิพพานแล้ว ๑๐๐ ปี ล้วนแต่ทำสังคายนาหลังจากพระพุทธเจ้านิพพานแล้วทั้งสิ้น แต่พระอรหันต์ท่านมีจิตบริสุทธิ์ ทรงจำพระธรรมได้หมด แบ่งกันกล่าวเป็นหมวดๆ พระองค์อื่นน่ั่งฟัง ลงมติวา่ถูกต้องแล้ว จึงให้จดจารไว้ในใบลาน พระสูตรน้ันพระอานนท์ ท่องพระธรรมให้ที่ประชุมพระอรหันต์ฟัง พระวินัยและพระอภิธรรมนั้น พระอุบาลีท่องให้ฟัง ท่านทำเป็นหลักเป็นฐานมาก
คำในพระไตรปิฎกมีอยู่ ๔ คำ
๑.อกัมมยตา แปลว่า ไม่สู้่
๒.อคัมมยตา แปลว่า ไม่หนี
๓.อตัมมยตา แปลว่า ไม่อยู่ ไม่เกิด
๔.อมัมมยตา แปลว่า ไม่ตาย (คือไม่เกิดมาตายอีก)
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น