วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อุตตริมนุสสธรรมของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอน สมเด็จดับขันธ์

สมเด็จดับขันธ์*
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ในวัยชราภาพ ท่านยังอุตสาหะไปสร้างพระศรีอารยเมตไตรยที่วัดอินทรวิหาร  ท่านสร้างเป็นพระศรีอารยเมตไตรย์ ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในภัทรกัปนี้ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่า พระอชิตภิกษุ หรือเจ้าชายอชิตสัตตุราชโอรสของพระเจ้าอชาตศัตรู กับพระนางกัญจนา ออกบวชในสำนักของพระพุทธเจ้ารุ่นหลัง ยังไม่บรรลุมรรคผลอันใด เพราะปรารถนาพระโพธิญาณมาแต่อดีตชาติ  พระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ว่าพระอชิตสัตตุภิกษุองค์นี้ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ไม่มีใครเชื่อ พระองค์จึงทรงจับบาตรของพระองค์โยนขึ้นบนอากาศ บาตรนั้นก็หายวับไป ให้ใครๆ ค้นหาก็ไม่เจอ ตรัสสั่งให้พระอชิตภิกขุ พระภิกษุบวชใหม่ค้นหา พระอชิตภิกษุก็ออกมากราบถวายบังคม แล้วอธิษฐานว่า ถ้าแม้นว่าข้าพเจ้าจะได้ตรัสรู้จริง ขอให้บาตรของพระผู้มีภาคเจ้าจงลอยลงมาสู่มือข้าพเจ้าบัดนี้เถิด ขาดคำอธิษฐานเท่านั้น บาตรก็ลอยลงมาสู่มืออย่างสำลี  สมเด็จพระพุฒาจารยทราบเรื่องนี้ มีความปรารถนาจะพบพระศรีอาริย์ในอนาคต จึงสร้างพระศรีอารยเมตไตรยไว้เคารพบูชาของมหาชนที่วัดบางขุนพรหม ท่านไปนั่งบัญชาการสร้างอยู่ที่วัดนั้น ยังไม่ทันแล้วเสร็จ ท่านก็ดับขันธ์ที่วัดบางขุนพรหมนี้ เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ อายุ ๘๕ ปี
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ไม่บรรลุพระอรหันต์แน่นอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ คือขอเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลอีกแสนไกล สมเด็จจึงบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ในชาตินี้ช่วยชาติป้องกันพระพุทธศาสนา สงเคราะห์ประชาชน อนุเคราะห์สัตว์ไปตามกำลังสติปัญญาของท่าน  พระที่บวชบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์มีมากในสมัยก่อน และมีมาจนถึงปัจจุบัน  พระเจ้าตากสิน พระนั่งเกล้าฯ ล้วนแต่บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ทั้งนั้น แม้พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราช ท่านก็บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ด้วย  พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) พระอุปัชฌาย์ของข้าพเจ้าก็บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ พระราชกวีวงศ์ วัดเสน่หา นครปฐม ท่านก็ประกาศว่าท่านบำเพ็ญพระบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านบัณฑูรสิงห์ แห่งสมุทรสาคร ผู้สร้างวัดบัณฑูรสิงห์และวัดเกตุมวดี ท่านก็บำเพ็ญบารมีปรารถนาพระโพธิญาณ ท่านกิตติวุฑโฒ หรือพระเทพกิตติปัญญาคุณ ท่านก็บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์
คนที่ปรารถนาพระโพธิญาณนั้น เกิดมาสร้างบารมีทุกชาติ ตายแล้วจะไปเกิดเป็นเทพชั้นดุสิต เมื่อเกิดใหม่ก็จะบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ทุกชาติไป ... ใครคงไม่เคยคิดนะว่า สมเด็จพระศรีนครินทราฯ ที่ท่านเสียสละความสุขออกช่วยประชาชนตลอดชีวิตอันยาวนานของท่าน สวรรคตเมื่ออายุ ๙๔ ปีนั้น ท่านคือพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมี ท่านเป็นบุคคลประเภทสมเด็จพระพุฒาจารย์นี่แหละ บุคคลอย่างนี้มีในประเทศไทยตลอดมาตั้งแต่โบราณกาลมาจนทุกวันนี้
(* พระสงฆ์ตาย ต้องพูดว่าดับขันธ์เพราะดับเบญจขันธ์)
(โปรดติตตามตอนต่อไป)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น