โกฏิ จักวะเฬสุ
ชื่อเสียงของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตไม่ใช่ดังอยู่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น
ยังดังก้องไปถึงหูพวกบาทหลวงในศาสนาคริสต์ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในเมืองสยามด้วย
เพราะศาสนาคริสต์ไม่แพร่หลายในหมู่คนไทย ไปเผยแพร่ในหมู่คนจีน คนญวน
เพราะในพุทธศาสนามีพระดีพระดังขวางอยู่ วันหนึ่งพวกบาทหลวงจึงมาสืบดูลาดเลาว่า
วัดระฆังมีพระดีอย่างไรนักหนา
มาถึงก็สอบถามสมเด็จพระพุฒาจารย์ว่า
“ในศาสนาพุทธ
พระพุทธเจ้าสอนว่า โลกกลมหรือโลกแบน”
สมเด็จพระพุฒาจารย์
ตอบว่า
“พระพุทธเจ้าของฉันไม่ได้สอนว่า
โลกกลมหรือโลกแบนดอก แต่ทรงสอนว่า “โลเกสุ จักวาเฬสุ โกฏิ จักวาเฬสุ แปลว่า
โลกทั้งหลาย อยู่ในจักรวาลทั้งหลาย จักรวาลมีแสนโกฏิจักรวาล ไม่ใช่มีแต่จักรวาลเดียว
โลกอยู่ในจักรวาลนี้ มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวนับล้านดวงเป็นจักรวาลหนึ่ง
ยังมีจักรวาลอีกนับล้านจักรวาล...”
“พระพุทธเจ้าสอนว่าใครสร้างโลก”
“พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่าใครสร้างโลก
ขืนคิดค้นหาว่าใครสร้างโลก คนนั้นก็จะบ้าเสียสติไปเปล่า”
“ถ้าเช่นนั้น
พระพุทธเจ้าก็ไม่แจ้งโลกจริง
เพราะโลกนี้พระเจ้าสร้างขึ้นมาพร้อมทั้งมนุษย์และสัตว์...”
“พระเจ้าของพวกท่านก็เก่งมากนะจ๊ะ
ที่สร้างคนบ้า สร้างหมาขี้เรื้อน สร้างหมัดไว้กัดหมา สร้างยุงไว้กัดคน
สร้างตัวพยาธิไว้ในท้องหมา...”
“ท่านว่าโลกกลม
ลอยอยู่ในจักรวาล ท่านลองชี้ดูซิว่า ศูนย์กลางของโลกอยู่ที่ไหน”
“ตามฉันมาซีจ๊ะ
ฉันจะชี้ให้ดู”
ว่าแล้วก็พาบาทหลวงลงจากกุฏิมายืนหน้าบันได
เอาไม้เท้าชี้ลงไปที่ดินว่า “นี่ ศูนย์กลางโลกอยู่ตรงนี้แหละจ้ะ”
“ท่านรู้ได้อย่างไร”
“ก็ลองเอาเชือกมาขึงไปให้รอบโลกซีจ๊ะ
แล้วมันจะมาจบลงตรงนี้แหละ
พวกบาทหลวงก็เลยต้องกลับไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น