สมเด็จบอกใบ้ให้หวย
เรื่องสมเด็จให้หวยนี้เลื่องลือกันมาก
เล่ากันหลายเรื่อง คราวหนึ่งท่านรับนิมนต์ไปเทศน์ในวัง พระจอมเกล้าฯ จึงตรัสล้อว่า
“ไงขรัวโต
เดี๋ยวนี้หากินทางบอกใบ้ให้หวยแล้วหรือ”
“ขอถวายพระพร
อาตมาไม่เคยบอกหวยใครเลยว่า วันนี้ออก ด.กวางเหม็ง วันนี้ออก ด.กวางเหม็ง
วันนี้หวยออก ด.กวางเหม็ง”
เมื่อสมเด็จออกจากวังไปแล้ว
พวกนางวังพากันแทงหวย ด.กวางเหม็ง เลยถูกหวยรวยกันหลายคน
เรื่องบอกใบ้ให้หวย
เรื่องบอกใบ้ให้หวยนี้
มีเรื่องเล่าลือกันมาก เพราะสมัยนั้นมีคนจีนมาผูกขาดออกหวยจับยี่กี
ที่มีชื่อคือเจ้าสัวหง จนกระทั่งคนไทยคนจีนเล่นหวยกันอย่างหลงใหล ถึงแก่มีตำราหวย
แต่งเป็นกลอนถึงตำนานหวยว่าตัวอะไรมีตำนานมาว่าอย่างไร มีพระภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อว่าบอกใบ้ให้หวยแม่นมากหลายองค์รวมทั้งสมเด็จพระพุฒาจารย์ด้วย
นายแจ่ม
แจ่มใส เล่าไว้ว่า เป็นลูกศิษย์สมเด็จพร้อมกับขุนธารกำนัล (จ่าง แจ่มใส) พี่ชาย ตกกลางคืนมีหน้าที่บีบนวดสมเด็จ
ผลัดเปลี่ยนเวรกันนวดคนละคืน จับแขนสมเด็จนวด
พบว่าข้อมือสมเด็จมีกระดูกชิ้นเดียว ไม่มีกระดูกคู่เหมือนคนทั่วไป
จึงบีบนวดอยู่ตรงนั้นด้วยความสงสัย สมเด็จฯ
ถามว่าเคยเห็นคนมีกระดูกอย่างนี้บ้างไหม เขาตอบว่าไม่เคยเห็น สมเด็จฯ ว่า “คนมีกระดูกอย่างนี้คือพระโพธิสัตว์”
ในขณะนวดอยู่นั้น
บางทีสมเด็จ ก็บอกว่าพรุ่งนี้หวยจะออกตัวนั้นตัวนี้
พอรุ่งขึ้นหวยก็ออกตรงตามที่สมเด็จบอกทุกที จึงไปเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง วันหนึ่งญาติสองคนบอกว่า
คืนนี้ถ้าสมเด็จฯ บอกหวยว่าออกตัวอะไรให้จดลงกระดาษแล้วทิ้งลงร่องกระดานไปให้ที
เขาทั้งสองคนจะรออยู่ใต้ถุนกุฏิ แต่ประหลาดคืนนั้นสมเด็จฯ
นอนเฉย ไม่บอกหวย เขาจึงถามสมเด็จฯ ว่า พรุ่งนี้หวยจะออกตัวอะไรครับ
สมเด็จฯ
ตอบว่า “วันนี้บอกไม่ได้ ฉันกลัวหวยของฉันจะลอดร่องจ้ะ”
ญาติสองคนใต้ถุนกุฏิอดหัวร่อไม่ได้
จึงหัวร่อกัน สมเด็จก็ชี้มือลงไปว่า
“นั่นไงจ๊ะ”
เรื่องบอกใบ้ให้หวยนี้
แสดงว่าสมเด็จท่านมิได้บอกใบ้ให้คนไปเล่นหวยกัน
แต่ท่านบอกว่าวันนี้หวยจะออกตัวอะไร บอกเมื่อเลยเวลาแทงหวยแล้วหรือไปแทงไม่ทัน อย่างเรื่องที่นายแจ่ม แจ่มใสเล่านี้
คงเป็นที่เลื่องลือมานานก่อนสมัยที่ท่านจะเป็นพระราชาคณะ คนเล่นหวยคงจะไปนั่งคอยจับกิริยาอาการของท่าน
แล้วไปตีปริศนาเอาเอง
เรื่องนี้ข้าพเจ้าเคยพบอาจารย์วัดจุฬามณี
เมืองสมุทรสงคราม ชื่อหลวงพ่อเนื่อง ท่านเคยบอกหวยให้ข้าพเจ้าเหมือนกัน วันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้าพเจ้านำรถยนต์ซื้อใหม่ไปให้ท่านเจิมเอาสิริมงคล
ท่านก็เอาเครื่องเจิมแป้งกระแจะพร้อมลงมาเจิมให้ ยังถามอีกว่า ว่าจะมาตั้งแต่วาน ทำไมไม่มาล่ะ
ไม่ทราบว่าท่านทราบได้อย่างไรว่าข้าพเจ้าตั้งใจจะไปให้ท่านเจิมตั้งแต่วันที่
๑๘ มกราคม ท่านว่าแล้วก็ขึ้นนั่งที่คนขับ
หันหน้ามาพูดว่า “ไอ้รถคาร์ดิแล็ค ๘ สูบ ๕ กิโลลิตร ให้เปล่าๆ ก็ไม่เอา...”
พูดแล้วก็หัวร่อเห็นเหงือกแดง นึกในใจว่า
หลวงพ่อให้หวยแน่ๆ ตั้งใจว่าตอนขากลับจะแวะซื้อลอตเตอรี่สักสองใบ คือเลข ๘๕
ตามที่หลวงพ่อบอก แล้วเลยลืมซื้อ
พอวันรุ่งขึ้น ลอตเตอรี่ออกเลขท้าย ๘๕ ตรงเผงเลย นี่คือวิธีบอกใบ้ให้หวยของพระที่ท่านเห็นเลขจริงๆ
แต่ท่านมิได้บอกตรงๆ ท่านบอกใบ้แบบนี้
กิตติคุณของสมเด็จฯ
คงกระจายขจรไปจนทราบถึงพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงแต่งตั้งท่านเป็นพระราชาคณะ แต่จนแล้วจนรอด สมเด็จท่านก็ท่องเที่ยวธุดงค์ไป ตามตัวท่านมารับพัดยศตราตั้งไม่ได้
คือการแต่งตั้งพระราชาคณะนี้
ไม่ใช่ตั้งได้ตลอดปีตลอดเดือน ต้องมีพระราชพิธี จึงตามตัวท่านมารับพระราชทานพัดยศตราตั้งไม่ได้
ตลอดเวลาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๖๗ ถึง พ.ศ. ๒๓๙๔ เป็นเวลานานถึง
๒๗ ปี ตลอดรัชกาลที่ ๓
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น